Thaksin University      
                      

ทำความรู้จัก Windows XP       

              
           บริษัท Microsoft ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1975 โดย บิลล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน ได้ร่วมกับก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Redmond,Washington,USA ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น และได้นำเอาภาษาเบสิกที่พัฒนาขึ้นเองออกวางตลาด และให้ชื่อว่าไมโครซอฟท์เบสิก ภาษาคอมพิวเตอร์นี้ได้กลายมาเป็นรากฐานให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึ่งถูกผนวก (ROM) เข้ากับเครื่อคอมพิวเตอร์ในบ้าน และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 70 และ 80

           ต่อมาในปี ค.ศ. 1985 ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของบริษัท Microsoft เพราะทางบริษัท IBM ได้วางแผนจะรุกตลาดคอมพิวเตอร์ด้วยการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(PC) IBM ออกวางตลาด IBM ได้เข้ามาเจรจากับ Microsoft เพื่อขอซื้อระบบปฏิบัตการคอมพิวเตอร์ซึ่งในตอนแรกทางบริษัท Microsoft ยังไม่มีระบบปฏิบัติการจะขายให้จึงแนะนำให้ IBM ไปคุยกับดิจิทัลรีเสิร์ชแทน ที่ดิจิทัลรีเสิร์ช ผู้แทนของ IBM ได้คุยกับโดโรธี ภรรยาของ แกรี คิลดาลล์ แต่เธอปฏิเสธการลงนามในข้อตกลงมาตรฐานซึ่งไม่ปิดผนึก เนื่องจากเห็นว่าเสียเปรียบเกินไป IBM จึงหันมาคุยกับ Microsoft อีกครั้ง บิล เกตส์ได้สิทธิ์ในการใช้สำเนาการออกแบบของ CP/M และ QDOS จาก ทิม แพทเทอร์สัน แห่งบริษัท ซีแอตเทิล คอมพิวเตอร์ โปรดักส์ ด้วยการซื้อมาในราคา 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และขายมันให้กับ IBM ในราคา "ราว 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ" ตามคำกล่าวอ้างของเกตส์ และในที่สุด MS-DOS และ PC-DOS ก็ได้แจ้งเกิดในวงการ

           ต่อมาในช่วงปี1989ทางบริษัท Microsoft ได้พัฒนา software ต่างๆของมาเช่น office suite,Microsoft office เป็นโปรแกรมที่ใช้ตามสำนักงานต่างๆเช่น Microsoft Word,Microsoft Excel

           และในวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ทางบริษัทได้ทำการเปิดตัว Window 3.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัตการ version แรกที่ได้นำgraphicsมาช่วยในการใช้งานเพื่อความคล่องตัวและปรับปรุงความสามารถเพื่อให้ใช้ Intel 386 processor ได้

          ในปีค.ศ. 1995 ได้ทำการปล่อย Windows 95 ออกสู่ตลาด

          ในปีค.ศ. 1998  ทางบริษัทได้พัฒนา Window 98 ออกมาใหม่

          ในปีค.ศ. 2001 ได้ผลิด Window XP

          และสุดท้ายในปี ค.ศ. 2006 ได้พัฒนาและผลิด Window vista ออกมา

          สำหรับ Windows XP นี้ก็ได้ถือกำหนดใหม่ขึ้นมา โดยนำความสามารถของ Windows รุ่นก่อน ๆ เช่น 98, Me และ 2000 เข้าด้วยกัน โดยมีรหัสในการเริ่มการพัฒนาว่า "Whistler" จุดเด่นหลักของของ Windows XP นี้ นอกเหนือจากรูปลักษณ์หน้าตาที่สวยงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติเด่น ๆ อีก เช่น การใช้งานร่วมกันหลาย ๆ คนในเครื่องเดียวกัน โดยสามารถกำหนดรหัสผ่าน และกำหนดสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้    
           ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows XP  คือ สามารถมองเห็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ได้ค่อนข้างมากขึ้น โดยที่อาจจะไม่ต้องไปหา Driver มาลงเพิ่มเติมเลย แต่ถ้าหากเป็นอุปกรณ์ใหม่ ๆ ก็ต้องลง Driver นอกจากนี้ หน้าตา รูปแบบการแสดงผลที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นจุดขายที่ดีของ Windows ตัวนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อมาจาก Windows NT จึงทำให้มีความเสถียรค่อนข้างสูง
          ถ้าหากไม่มีปัญหากับ hardware หรืออุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว นับได้ว่า จะมีความเสถียรมากกว่า  Windows 98และ Windows Me ค่อนข้างมาก

เวอร์ชั่นของ Windows XP แบ่งได้ 3 ประเภท

  1. Windows XP Home Edition
    เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน มีคุณสมบัติเด่น ๆ ด้านระบบมัลติมีเดีย ดูหนังฟังเพลง สามารถต่อเข้าเป็นระบบเครือข่ายภายในบ้านได้ รวมทั้งมีระบบการขอความช่วยเหลือระยะไกลได้
  2. Windows XP Professtional
    เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามสำนักงาน มีคุณสมบัติพื้นฐานเช่นเดียวกับ Home Edition แต่เพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
  3. Windows XP 64-Bit Edition
    เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความสามารถของคอมพิวเตอร์ในระดับสูง เนื่องจากเวอร์ชั่นนี้ สนับสนุนหน่วยความจำขนาดใหญ่, ออกแบบสำหรับหน่วยประมวลผลในตระกูล intel Itanium (ระดับสูง), ความสามารถในการทำงานข้ามระบบ และอื่นๆ อีกมาก

                                                 

กลับหน้าแรก

 

จัดทำโดย : กลุ่มภารกิจบริการและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน สำนักคอมพิวเตอร์ วิทยาเขตสงขลา